ไส้กรองอากาศ กับความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ไส้กรองอากาศ

เพราะการดูแลกรองอากาศก็นับว่าเป็นอีกสิ่งจำเป็นที่ต้องดูแลไม่แพ้อุปกรณ์อื่น ๆ เลย เพื่อรถมีประสิทธิภาพเต็มที่ ดังนั้น ไส้กรองอากาศ ควรจะให้ความสำคัญในการดูแลและเปลี่ยนเมื่อไหร่ดี

       ในวันนี้เราจะมาพูดกันถึงอุปกรณ์ส่วนหนึ่งสิ่งเล็กๆ ของรถยนต์อย่าง ไส้กรองอากาศ หรือที่เราเรียกกันว่า Air Filter ที่ไม่ควรมองข้าม และยังเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่สามารถทำให้เครื่องยนต์อายุการใช้งานสั้นลงก่อนเวลาอันควรได้ถ้าหากละเลยที่จะดูแล ทาง P.I.E Premium Modern Truck จะพาทุกคนไปรู้จักความสำคัญของไส้กรองอากาศ มีระยะเวลาการใช้งานเท่าไร และจะมีสัญญาณอะไรบ้างที่จะบ่งบอกว่าเราควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศได้แล้ว เพื่อให้เราสามารถใช้งานรถได้เต็มประสิทธิภาพ เรามาดูไปพร้อม ๆ กัน

       ไส้กรองอากาศเป็นหนึ่งอุปกรณ์ของรถยนต์ ที่มีหน้าที่ในการช่วยกรองและดักจับฝุ่นละอองต่าง ๆ รวมไปถึงสิ่งสกปรกที่จะต้องพบเจอในระหว่างการเดินทางไม่ให้เข้าไปสู่ห้องเผาไหม้เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ได้ และแน่นอนว่าถ้าหากใช้งานไประยะเวลาหนึ่งไส้กรองจะต้องเกิดมีอาการอุดตันจากเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกขึ้น ส่งผลทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ อาจจะมีปัญหาวิ่งไม่ออก หรือทำให้อากาศหรือออกซิเจนผ่านเข้าไปผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้น้อยลง และยังอาจส่งผลให้การเผาผลาญของเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ อัตราการเร่งลดลง ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้ในที่สุด นอกจากนี้รวมถึงการกินน้ำมันที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

อายุการใช้งานของไส้กรองอากาศ

       โดยปกติแล้ว ไส้กรองอากาศส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานขึ้นอยู่กับระยะทางที่รถวิ่ง (กิโลเมตร) โดยส่วนมากควรถอดนำมา เป่าเพื่อไล่ฝุ่นออก ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ซึ่งวิธีนี้จะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานของไส้กรองอากาศให้เพิ่มมากขึ้นได้ และส่วนระยะทางการเปลี่ยน ก็มักจะเปลี่ยนไส้กรองอากาศกันเมื่ออยู่ที่ประมาณ 20,000 – 40,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ระยะเวลาการเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้รถยนต์ของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เนื่องมาจากว่ารถบางคันก็ไม่ได้ใช้งานในการขับขี่ผ่านเส้นทางที่มีฝุ่นเยอะมากนัก

สัญญาณเตือนที่จะบ่งบอกว่าไส้กรองอากาศภายในรถเริ่มมีปัญหา

       ถ้าหากรถยนต์ของคุณเกิดอาการดังต่อไปนี้ แม้ว่าจะยังขับไม่ถึงเส้นทางและระยะเวลาการเปลี่ยนไส้กรองก็ตาม ก็แสดงว่าไส้กรองอากาศน่าจะเริ่มมีปัญหาและอาจถึงเวลาต้องตรวจเช็กเพื่อทำความสะอาดหรือเปลี่ยนนั่นเอง

  • เครื่องยนต์กำลังตก เร่งเครื่องไม่ขึ้น
  • เครื่องยนต์สั่นมากกว่าปกติเวลาเร่งเครื่องหรือแม้แต่เวลาจอดไว้เฉย ๆ เนื่องจากการการที่มีอากาศไหลเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์น้อยไม่ได้ตามสัดส่วนตามประเภทของเครื่องยนต์ ส่งผลทำให้การเผาไหม้เครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์
  • เครื่องยนต์เริ่มมีเสียงที่ดูเหมือนมีปัญหาในการดูดอากาศ

  • รถเริ่มสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นกว่าปกติ
  • สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลอาจเริ่มมีควันดำเขม่าดำออกจากท่อไอเสีย ถ้าเป็นเครื่องยนต์เบนซินจะไม่มีควันหรือเขม่าดำแต่จะมีกลิ่นไอน้ำมันเบนซินออกมามาก
  • เมื่อถอดตัวไส้กรองอากาศออกมาแล้วมีคราบฝุ่น หรือสิ่งสกปรกติดอยู่เป็นจำนวนมาก

       เห็นหรือไหมครับว่าเราสามารถหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าไส้กรองอากาศและให้ความใส่ใจดูแล ก็สามารถที่จะช่วยทำให้เครื่องยนต์ของเราไม่เสียหายหรือสึกหรอก่อนระยะเวลาอันควร และยืดระยะการใช้งานของรถที่รักเราได้อีกนั่นเอง

ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck

P.I.E. Premium Modern Truck :: ขายรถบรรทุก

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง