จุดบอดของรถบรรทุก

จุดบอดของรถบรรทุก

รู้ไว้ขับขี่ปลอดภัยขึ้น ! เลี่ยงอันตรายจาก 4 จุดบอดของรถบรรทุก ที่ควรจะระวัง

       หลายครั้งที่มีเหตุการณ์อุบัติเหตุจากการที่รถยนต์บรรทุกคันใหญ่เกิดชนรถคันเล็ก ๆ ทั้งรถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบก ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ว่า ตามสถิตินั้น (ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ที่ผ่านมา) รถจักรยานยนต์ที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ารถประเภทอื่น โดยสาเหตุส่วนใหญ่คือ คู่กรณีจะเป็นรถบรรทุก หรือ รถขนาดใหญ่กว่า นั่นเอง นอกจากนี้ในหลาย ๆ เหตุการณ์ตัวของผู้ขับขี่รถบรรทุกเองก็ไม่ได้รู้ตัว หรือ สังเกตุเห็นทุกครั้งไป เนื่องจากบางครั้งรถคันเล็กกว่าอยู่ในจุดอับสายตานั่นเอง วันนี้ทาง P.I.E Premium Modern Truck  จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้จึงจะมาบอกให้ทุกคนรู้เกี่ยวกับ “4 จุดบอดของรถบรรทุก“ให้ทุกคนได้หลีกเลี่ยงจุดอับสายตาเหล่านี้ และ ได้ระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน เพื่อความปลอดภัยสำหรับทุกคน

       เนื่องจากรถบรรทุกมีความสูง และ ใหญ่กว่ารถประเภทอื่น ๆ มาก โดนรถขนาดใหญ่เหล่านี้จะมีจุดศูนย์ถ่วงในตำแหน่งสูงกว่ารถทั่วไปเพื่อรับน้ำหนักของสิ่งของที่ต้องบรรทุก ซึ่งมีการออกแบบให้ตำแหน่งของผู้ขับอยู่สูงไปด้วยนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิด “ข้อกัดในการมองเห็น” ขึ้นทำให้รถบรรทุกมีจุดบอด หรือ จุดอับสายตา ที่มากกว่ารถประเภทอื่นๆ สำหรับการมองเห็นรถคันที่เล็กกว่าเมื่ออยู่ในจุดที่ต่ำกว่า และ ใกล้ตัวรถบรรทุกมากเกินไป หรือ ห่างไกลจากกระจกมองข้าง / กระจกมองหลัง หรือ กระจกส่องรอบตัวรถ ส่องไม่ถึง โดยรวมแล้วมีอยู่ด้วยกันอยู่  จุด ดังต่อไปนี้
จุดที่ 1 บริเวณด้านหน้าของรถบรรทุก

ผู้ขับขี่รถบรรทุกไม่อาจจะมองเห็นพาหะนะที่อยู่บริเวณ จุดบอดหน้ารถบรรทุก ในระยะห่างกันไม่เกิน 3-6 เมตรได้ เนื่องจากความสูงของรถอาจทำให้ทัศนวิสัยของการมองเห็นถูกบดบัง นอกจากนี้ยังมีในส่วนของอุปกรณ์อื่นๆ ที่อาจบดบังการมองเห็นด้วยเช่นกัน ดังนั้นในการขับขี่อยู่บริเวณด้านหน้าของรถบรรทุกจำเป็นต้องมีการเว้นระยะห่างมากกว่า คันรถ หรือ เว้ยระยะห่างไว้มากกว่า 2 คันรถไว้นั้นเอง

จุดที่ 2 ด้านขวาของรถบรรทุก และ รถขนาดใหญ่

ในจุดนี้นั้นผู้ขับขี่รถบรรทุกหลายคนอาจจะมองไม่เห็น หรือ ไม่สามารถสังเกตรถด้านข้างได้ตลอดเวลา ซึ่งรถที่วิ่งอยู่บริเวณด้านข้างตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นซ้าย หรือ ขวาก็ดี อาจได้รับอันตรายได้ โดยเฉพาะรถที่ไม่ได้อยู่ในรัศมีของกระจกข้าง ในเวลาที่รถบรรทุกต้องการจะเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทาง หรือ เปลี่ยนเลนนั้น ควรหลีกเลี่ยงการขับรถประกบแนบ หรือ การขับรถเทียบข้างรถบรรทุก และควรที่จะขับรถให้เทียบเท่า หรือ อยู่พ้นจากรัศมีจัดบอดหน้ารถบรรทุก เพื่อให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกนั้นสามารถมองเห็นได้จะดีที่สุด และ ที่สำคัญไม่ควรวิ่งแซงรถบรรทุกขณะรถบรรทุกกำลังเลี้ยวอยู่นั่นเอง เพราะรถบรรทุกก็อาจจะเบรกไม่ทันได้เช่นกัน

จุดที่ 3 บริเวณด้านหลังของรถบรรทุก

สำหรับจุดนี้แน่นอนว่าผู้ขับขี่รถบรรทุกจะไม่สามารถมองเห็นรถได้ง่ายๆ เช่นกันแม้จะมีกระจกมองหลัง หรือ กระจกส่องท้ายที่ติดอยู่บริเวณท้ายรถด้วยก็ตาม แม้แต่รถยนต์ส่วนบุคลธรรมดาการจะสังเกตรถขันที่ขับอยู่ด้านหลัง เช่น รถมอเตอร์ไซค์ ก็ใช่ว่าจะสามารถเห็นได้ทุกครั้งไป 

โดยบริเวณด้านหลังของรถบรรทุกนั้นถึอว่ามีจุดบอดสายตาค่อนข้างสูงด้วยความสูงของตัวรถบวกกับความยาวด้วยเช่นกันทำให้การสังเกตุจัดนั้นเป็นไปได้ยากมาก อีกทั้งยังมีโอกาสถูกบดบังสายตาจากสิ่งที่บรรทุกมาด้วย ซึ่งความสูงของสิ่งของ หรือ ตู้คอนเทนเนอร์ และ รัศมีของกระจกข้างก็ส่องไปไม่ถึง 

ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการขับอยู่ด้านหลังรถบรรทุกในระยะประชันชิด และ ควรเว้นระยะห่าง ประมาณ 80-100 เมตร หรือ อย่างน้อย 20-25 ระยะคันรถ เผื่อในเวลาที่รถบรรทุกเบรก หรือ ถอยหลังนั่นเอง

จุดที่ 4 บริเวณด้านซ้ายของรถบรรทุก

ในจุดนี้เป็นจุดที่อันตรายที่สุดของรถบรรทุกแล้ว เนื่องจากเป็นจุดที่มีทัศนวิสัยแคบอีกทั้งระยะห่างระหว่างผู้ขับกับกระจกอยู่ห่างกันมาก จากบริเวณที่ผู้ขับขี่ต้องควบคุมรถ (ห้องโดยสารฝั่งขวา) และ รัศมีของกระจกเองก็แคบไปด้วยเนื่องจากระยะห่าง และ มุมอับ ต่างๆ 

ซึ่งบางครั้งเราอาจจะเคยเห็นวิธีการแก้ปัญหาของผู้ขับขี่ด้วยการเสริมกระจกมองข้างจำนวนหลายอันเพื่อให้การมองเห็นมีระยะ และ องศาเพิ่มมากขึ้นแต่นั่นก็ยังไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมดอยู่ดี ผู้ขับขี่จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ในรัศมีเฉียงลงมาถึง 3 เลนได้เลย จึงเป็นจุดที่ควรระมัดระวังมากที่สุด หากขับรถอยู่ในพื้นที่ ประชิดด้านซ้ายของรถบรรทุก จุดนี้ควรรีบแซงไปข้างหน้า หรือ ควรหลีกเลี่ยงการขับรถในบริเวณนี้จะดีที่สุดเพื่อความปลอดภัย อย่า แช่เป็นเวลานาน

และทั้งหมดนี้คือจุดอับสายตา หรือ จุดที่มีความเสี่ยงสูง เมื่อขับประชิดกับรถขนาดใหญ่ รถบรรทุก ตลอดจน รถบรรทุกเฉพาะ ประเภทต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับรถบรรทุกประเภทต่างๆ ที่ต้องรับภาระในการติดตั้งอุปกรณ์ส่วนเสริมเข้าไปยิ่งทำให้การควบคุม การมองเห็น และ การเฝ้าระวังอุบัติเหตุ เป็นไปได้ยาก เราจึงไม่ค่อยเห็นรถบรรทุกแบบเฉพาะ ขับขี่ด้วยความเร็วมากเสียเท่าไหร่ นั่นเอง ตัวอย่างเช่น รถดับเพลิง หรือ รถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ ที่ต้องรับภาระในการบรรจุน้ำในแท็งค์ พร้อมคิดคำนวนถึงแรงส่งที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของน้ำในแท็งค์เวลาที่ทำการเลี้ยว หรือ หยุดรถ เป็นต้น

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนในอนาคตสืบต่อไป

P.I.E Premium Modern Truck : ขายรถบรรทุก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันข่าวสาร

ที่มา : กรมการขนส่งทางบก (https://www.dlt.go.th/th/)

ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck

P.I.E. Premium Modern Truck :: ขายรถบรรทุก

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง