รถเหินน้ำ อาการยอดฮิตในหน้าฝน

Image by wirestock on Freepik

รถเหินน้ำ อาการยอดฮิตที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ครั้งในหน้าฝน ซึ่งสามารถนำไปสู่อันตราย และมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้สูง

       รถเหินน้ำ หรือ Hydroplaning เป็นอีกหนึ่งภัยอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งเมื่อจะต้องขับขี่ในขณะฝนตกหนัก หรือในช่วงหน้าฝน  โดยอาการรถเหินน้ำนี้เป็นความเสี่ยงที่จะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุรุนแรงในการขับขี่ได้ ซึ่งในวันนี้ทาง P.I.E Premium Modern Truck เราจะมาพาผู้อ่านทุกคนไปทำความรู้จักกับสาเหตุของอาการดังกล่าว และวิธีป้องกันพร้อมกับรับมือไม่ให้เกิดขึ้น

       อาการรถเหินน้ำ (Hydroplaning หรือ Aquaplaning) คือ อาการที่ล้อรถยนต์ไม่สัมผัสหรือเกาะกับพื้นถนน เนื่องจากมีการผสมกันระหว่างน้ำ น้ำมันและฝุ่นต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่บนถนนเข้ามาแทรกเป็นชั้น ส่งผลให้เราควบคุมรถหรือเบรกได้ยากขึ้นมากกว่าปกติ โดยมักจะเกิดขึ้นจากการขับรถด้วยความเร็วสูงผ่านในบริเวณที่มีแอ่งน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะกับเส้นทางโค้งและที่ลาดต่ำ ก็จะทำให้ยางไม่สามารถรีดน้ำออกจากหน้าสัมผัสได้ทัน และส่งผลให้ล้อรถหมุนลอยอยู่บนน้ำ จนไม่สัมผัสกับพื้นถนน และเกิดการลื่นไถลจนไม่สามารถควบคุมรถได้นั่นเอง

สาเหตุของ รถเหินน้ำ เกิดจากอะไรบ้าง ?

  1. ความเร็วของรถยนต์

ความเร็วเป็นปัญหาหลักและเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดของอาการเหินน้ำ ถ้าหากว่ารถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ก็จะยิ่งมีโอกาสสูงที่ยางรถยนต์จะไม่สามารถรีดน้ำได้ทันท่วงทีตามไปด้วย ในทางที่ดีถ้าหากจะต้องขับรถในช่วงฝนตก ควรจำกัดความเร็วอยู่ที่ไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงจะดีที่สุด เพื่อเป็นการลดโอกาสในการเกิดอาการเหินน้ำ

  1. ลักษณะของพื้นผิวถนน

ถ้าหากท้องถนนเป็นพื้นแบบคอนกรีตผิวเรียบ ที่มีความขรุขระน้อย ก็จะสามารถเกิดอาการเหินน้ำได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับพื้นถนนแบบที่เป็นยางมะตอยเคลือบไว้ เพราะถนนแบบยางมะตอยจะมีพื้นผิวที่ขรุขระและมีร่องและรูตามผิวถนน ทำให้ยางรถยนต์สามารถที่จะทำการทรงตัวและเกาะถนนได้ดีกว่านั่นเอง

  1. ดอกยางของรถยนต์

อีกกรณีหนึ่งที่สามารถพบได้บ่อยก็คือการใช้ยางรถยนต์ที่มีการเสื่อมสภาพ และอย่างที่รู้ ๆ กันว่าดอกยางรถยนต์มีทำหน้าที่ในการรีดน้ำออก เมื่อหน้ายางสัมผัสกับผิวถนนที่เปียก ซึ่งถ้าหากว่ายางรถยนต์เริ่มมีการเสื่อมสภาพจากการใช้งานหรืออายุของยางที่นานเกินไป ก็ส่งผลให้ดอกยางมีความลึกของร่องดอกยางน้อยเกินไป ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำน้อยลงและเกิดอาการเหินน้ำได้ง่ายกว่าปกติ

  1. น้ำหนักที่บรรทุกของ

     ถ้าหากว่าจะต้องบรรทุกของหนัก ๆ ไว้บนรถสำหรับการเดินทาง จะก็ทำให้รถมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าปกติทั่วไป และเมื่อรถเกิดการเสียการทรงตัวจะก่อให้เกิดอันตรายได้มากกว่าปกติเช่นเดียวกัน เนื่องจากว่าน้ำหนักที่มากขึ้นก็จะทำให้มีแรงเฉื่อยที่น้อยลงตามลงไปด้วย

วิธีป้องการอาการเหินน้ำ

  1. ลดความเร็วของการขับขี่ในขณะฝนตกลง เพื่อเป็นการช่วยให้ยางรถยนต์ยึดเกาะกับถนนและรีดน้ำออกได้เต็มประสิทธิภาพ
  2. ขับขี่รถยนต์ด้วยความระมัดระวัง มีสมาธิและสติอยู่เสมอ ควรจับพวงมาลัยให้มั่น เพื่อที่จะได้ควบคุมและสามารถบังคับทิศทางของรถยนต์ได้ทันท่วงที ถ้าหากว่ารถยนต์มีทิศทางที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน อย่าตื่นตระหนกอย่างเด็ดขาด ให้จับพวงมาลัยให้มั่นเพื่อควบคุมทิศทางรถ แล้วค่อย ๆ ถอนคันเร่งเพื่อชะลอความเร็ว พร้อมกับแตะเบรกเบา ๆ เมื่อต้องการหยุดรถ จะสามารถช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น
  3. หลีกเลี่ยงในการขับรถผ่านบริเวณที่เป็นแอ่งน้ำ เพราะอาจทำให้รถเหินน้ำและลื่นไถลออกนอกเส้นทางได้ง่าย แต่สำหรับในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการขับผ่านแอ่งน้ำได้ ก็ควรชะลอความเร็วลงเมื่อขับรถผ่านแอ่งน้ำนั้น ๆ
  4. สำหรับรถยนต์ที่มีระบบ Traction Control System ก็ควรเปิดเอาไว้ตลอดเวลา ซึ่งระบบนี้จะทำหน้าที่ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถลได้

ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck

P.I.E. Premium Modern Truck :: ขายรถบรรทุก

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง