เทคนิคการขับรถขึ้นเขาลงเขา
เป็นสถานการณ์ที่ต้องใช้ทักษะที่ดีในการขับรถ เพื่อให้ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย นี่คือเทคนิคที่ควรพิจารณาเมื่อขับรถขึ้นเขา ลงเขา
ใช้รถให้เหมาะสม : ในการขับรถขึ้นเขาและลงเขา, ความสำคัญมากที่จะใช้เครื่องรถให้เหมาะสม ใช้เครื่องรถเท่าที่จำเป็น และไม่ใช้มากเกินไปเพื่อลดความหนักของรถ
ควบคุมความเร็ว : ควบคุมความเร็วของรถให้เหมาะสม เมื่อขับขึ้นเขาหรือลงเขา อย่าขับรถด้วยความเร็วที่สูงเกินไปเพราะอาจทำให้ควบคุมรถได้ยาก
ใช้เครื่องยนต์ : ใช้ความสามารถของเครื่องยนต์ให้เต็มที่เมื่อขับรถขึ้นเขา ใช้เครื่องยนต์เพื่อเพิ่มพลังในการขับเพื่อให้รถมีพลังในการขึ้นเขา
ควบคุมเกียร์ : ใช้เกียร์ให้เหมาะสมเมื่อขับรถขึ้นเขา ใช้เกียร์ เพื่อเพิ่มการควบคุม และป้องกันการลื่นไถล
ควบคุมความลื่น : เมื่อขับรถขึ้นเขาหรือลงเขา ควบคุมความลื่นของรถโดยใช้เบรก และควบคุมด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการลื่นไถล
ควบคุมล้อ : ควบคุมล้อรถอย่างมีระบบ ควบคุมล้อต่อมือให้เหมาะสม เมื่อขับรถบนถนนลาดและทางลุยเขา
ระวังมุมของถนน : ระวังมุมที่แคบหรือมีทางโค้งโดยรอบ เพราะมุมแคบอาจทำให้รถยากตรงได้ และมุมโค้งอาจทำให้เสี่ยงตกลงถนน
การเตรียมความพร้อม : ก่อนขับรถขึ้นเขาหรือลงเขา, ตรวจสอบรถให้แน่ใจว่าทุกส่วนพร้อมใช้งาน และตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเฟืองเบรก, และลมยาง
รู้จักทิศทาง : รู้ว่าควรหันไปทางไหนเมื่อขับรถขึ้นเขาหรือลงเขา และรู้ว่าควรหันไปทางไหนเมื่อต้องหันในการรับมุมความถี่ของถนน
ขับรถขึ้นเขา ลงเขาเป็นต้องมีฝีมือที่ดี และมีประสบการณ์ และคุณควรรู้จักรถของคุณ และรายละเอียดของถนนที่คุณขับเสมอ อีกทั้งควรปฏิบัติตามตามกฎหมายจาราจร และความปลอดภัยเมื่อขับรถ เมื่อขับรถขึ้นเขา ลงเขา
ทั้งรถ เกียร์ออโต & เกียร์ธรรมดา
การขับรถขึ้นเขาและลงเขา ทั้งรถเกียร์ออโต และรถเกียร์ธรรมดา จะมีข้อแตกต่างบางอย่าง ดังนี้
รถเกียร์ออโต
- ขึ้นเขา : ควรเริ่มต้นด้วยการใช้เกียร์ D เป็นหลัก ถ้าหากเส้นทางมีความชันมากก็ให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ D1 ส่วนเส้นทางที่มีความชันรองลงมาให้ใช้ D2 (เกียร์ D นั้นคือระบบเกียร์ต่ำที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ขึ้นลงเขาที่มีความชันโดยเฉพาะ) ซึ่งนอกจากระบบเกียร์ที่ต้องใช้ให้ถูกต้องแล้ว การเหยียบคันเร่งก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน เราควรเหยียบคันเร่งตามจังหวะของความชันค่อยๆ แตะคันเร่งเบาๆ เพื่อเลี้ยงความเร็วให้อยู่ที่ประมาณ 50-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ลงเขา : ลงเขามีความคล้ายคลึงกับการขับขึ้นเขาคือควรใช้เกียร์ D เป็นหลัก ซึ่งถ้าหากเส้นทางมีความชันมากก็ให้ใช้เกียร์ D1-D2 ตามลำดับ ส่วนการแตะเบรกนั้นให้แตะเบาๆ เพื่อชะลอความเร็วเท่านั้น อย่าเหยียบเบรกค้างเพราะอาจทำให้ผ้าเบรกไหม้ได้ โดยความเร็วที่เหมาะสมในการลงเขาจะอยู่ที่ประมาณ 40-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง เราควรประคองความเร็วเอาไว้ไม่ให้เกินนี้
รถเกียร์ธรรมดา
- ขึ้นเขา : เมื่อขับรถเกียร์ธรรมดาขึ้นเขา ควรใช้เกียร์ที่เหมาะสมเช่นเกียร์ต่ำ แค่เกียร์ 1 และ 2 เท่านั้น (เกียร์ 1 และ 2 มีแรงมากกว่าเกียร์อื่น ๆ ) เพื่อเพิ่มแรงบิดในการขับ ใช้เบรก และควบคุมด้วยความระมัดระวังเมื่อขับรถขึ้นเขา
- ลงเขา : ควรใช้เกียร์ต่ำเหมือนกับขึ้นเขานะครับ แต่ขาลง รถไม่ต้องการแรงมากเท่าไหร่ แค่ต้องการแรงฉุดเพื่อให้รถวิ่งช้าลง ซึ่งการใช้เกียร์ต่ำวิ่งลงทางชันนั้น จะทำให้เครื่องยนต์มีแรงฉุดมาก เคลื่อนที่ได้ไม่เร็ว ทำให้สามารถเบรก และเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งทางลงเขาควรอยู่ที่เกียร์ 1 หรือ 2 เท่านั้นครับ และห้ามดับรถ หรือใช้เกียร์ว่างลงเขาเด็ดขาด
ข้อควรระวัง และควรปฏิบัติตาม
ใช้เกียร์ต่ำเท่านั้น, ไม่ควรใช้เกียร์ว่างลงเขา, เหยียบเบรกให้ถูกวิธี, ขับชิดซ้าย ไม่เร่ง ไม่แซงโดยไม่จำเป็น. ให้สัญญาณรถคันอื่นอยู่เสมอ, ควบคุมความเร็วและปฏิบัติตามกฎจราจร
รายละเอียดเกี่ยวกับการขับรถขึ้นเขา และลงเขา อาจแตกต่างตามรุ่น และยี่ห้อของรถ ควรอ่านคู่มือการใช้งานของรถของคุณ และปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้ผลิตของรถ ในทุกกรณี, ควรควบคุมความระมัดระวัง และรักษาความปลอดภัย เมื่อขับรถในถนนลาด และทางลงเขา
เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง
- การเติมลมยางรถบรรทุก
- น้ำท่วมระดับไหนอันตราย
- วิธีเช็ครถก่อนเดินทาง ช่วงหน้าฝน
- การเปิดไฟฉุกเฉิน ขับรถเวลาที่ฝนตกหนัก
ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุก ได้ที่เว็บไซต์ : https://piemoderntruck.com/
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ผ่านไลน์แอด : ติดต่อเราคลิก หรือ @pie333
Page Face Book : P.I.E. Premium Modern Truck
TikTok : @piepurchesing
