เคล็ดไม่ลับ 5 วิธีดูแลรถบรรทุก ให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
การดูแลรักษารถบรรทุกให้มีสภาพที่เหมือนใหม่ และ พร้อมใช้งานอยู่เสมอนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้รถบรรทุกที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจ และ เครื่องมือในการทำงานของเรานั้นสามารถใช้งานได้นาน ๆ และ ไม่เสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งาน หรือ ชำรุดเสียหายง่าย ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าถ้าเราจะเรียนรู้วิธีที่จะดูแลรถบรรทุกกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งวันนี้ P.I.E Premium Modern Truck จึงมี เคล็ดไม่ลับ 5 วิธีดูแลรถบรรทุก มาฝากทุกท่านให้นำไปใช้กับรถบรรทุกคู่ใจง่าย ๆ โดยจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย
ยางของรถบรรทุก เป็นเหมือนฐานของตัวรถบรรทุก มีหน้าที่ในการต้องรองรับรถบรรทุกที่มีน้ำหนักที่หนักมากกว่ารถอื่น ๆ ดังนั้นอุปกรณ์ส่วนนี้จึงควรได้รับการดูแลเป็นอย่างมาก การเช็คลมยางเป็นการดูแลรถเบื้องต้นที่ทุกคนควรใส่ใจอยู่แล้ว ก่อนจะออกเดินทาง หรือ ใช้งานรถควรมีการประเมินลมยางก่อน ไม่ว่าจะไปที่ใดต้องเช็คตัวลมยาง และ เติมลมให้เรียบร้อย ให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งสำหรับรถบรรทุกนั้นต้องตรจสอบให้เหมาะกับน้ำหนักของรถ และ คำนึงถึงน้ำหนักของสิ่งที่บรรทุกเข้าไปด้วย สามารถเติมลมยางได้ตั้งแต่ 85-100 psi ขึ้นอยู่กับขนาดยาง สำหรับยางที่มีตำแหน่งอยู่ตำแหน่งพ่วง หรือ เป็นตำแหน่งของล้อลากที่ต้องรับน้ำหนักมาก ๆ ควรเพิ่มแรงดันเป็น 100-125 psi ตามขนาดยางเช่นกัน และ ถ้าหากยางมีขนาดที่ใหญ่มากสามารถเติมลมยางได้มากกว่า 130 psi
ที่ปัดน้ำฝน หรือ กระจกปัดน้ำฝน นั้นควรตรวจเช็คเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะส่งผลในอนาคต หรือ เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องใช้จะได้ไม่มีปัญหา วิธีการตรวจสอบเบื้อต้นก็แสนจะง่ายด้วยการมองหาสัญลักษณ์ที่ปัดน้ำฝนที่ส่วนควบคุมคอนโซลแล้วทำการใช้งานเพื่อทดสอบดูว่าอุปกรณ์อยู่ในสถานะพร้อมใช้หรือไม่ ต่อมาคือ หาถังน้ำฉีดกระจกที่อยู่ในห้องเครื่อง จากนั้นตรวจสอบระดับน้ำให้มีอยู่ตลอด หากระดับน้ำต่ำ หรือ ใกล้แห้งให้เติมน้ำน้ำสะอาดให้ถึงขีดที่กำหนดไว้เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
หม้อน้ำของรถ หรือ หม้อน้ำระบายความร้อน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรหมั่นเช็คเป็นประจำเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานพ่วงกับระบบระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ภายในรถ ไม่ใช่เพียงแต่รถบรรทุกเท่านั้น สามารถทำได้ด้วยการตรวจความดันวัดระดับน้ำในหม้อน้ำ และ เติมน้ำสะอาดลงไปให้ถึงขีดที่กำหนดถ้าหากพบว่าน้ำในหม้อนั่นลดลง อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือ ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถด้วยหากมีการใช้งานนานกว่าปกติก็ควรหมั่นตรวจเช็คอยู่เรื่อยๆ เพื่อเป็นการป้องกันระบบระบายความร้อนของรถไม่ให้มีปัญหา
ยางอะไหล่ หรือ ยางสำรอง เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ติดไปกับรถของเราเสมอ ทุกคนต้องเคยเห็นแน่นอน แต่ก็บ่อยครั้งที่อุปกรณ์สำรองชิ้นนี้ มักจะถูกมองข้าม หรือ ถูกให้ความสำคัญต่ำ เพราะเราไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อยนัก บางคนถึงกับเอาออกจากรถไปเลยก็มีเพราะทำให้รถหนัก แต่สำหรับผู้ที่ใช้งานด้านขนส่ง หรือ ขับขี่รถบรรทุกเป็นอาชีพคงไม่มีใครอยากทำเช่นนั้น เนื่องจากอุปกรณ์ชิ้นนี้มีความจำเป็นสูงมาก เมื่อเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นเกี่ยวกับล้อใดล้อหนึ่ง หรือ ยางล้อใดล้อหนึ่ง อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้รถของเราวิ่งไปต่อจนถึงจุดซ่อม/เปลี่ยน ได้นั่นเอง ดังนั้นเราควรจะหมั่นเช็คคุณภาพของล้อสำรอง คุณภาพของยาง และ ระดับลมยางอะไหล่ เช่นเดียวกันกับยางของล้อที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ เพื่อให้มีความพร้อมอยู่เสมอ และ เนื่องจากยางถ้าถูกทิ้งไว้เฉย ๆ เป็นเวลานานก็มักจะมีการคายลมออกทีละนิด จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบระดับลม และ เติมลมยางไว้ให้มีมากกว่าปกติ และสำหรับยางที่มีการเก็บไว้นานอายุมากกว่า 5 ปีแล้ว ยิ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี ไม่ควรนำมาใช้ในระยะทางไกลเกินกว่าที่คู่มือกำหนดเอาไว้
การตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง คืออีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยยืดอายุการทำงานของเครื่องยนต์ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเราสามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำรถเข้าไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ หรือ จะทำการตรวจเช็คด้วยตัวเองก็ได้เช่นกัน สำหรับการเช็คด้วยตัวเองควรทำทุก 2- 3 สัปดาห์ เป็นอย่างต่ำ ตรวจดูสภาพ และ รักษาปริมาณของน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้อย่าลืมที่จะเลือกใช้ใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพดี เหมาะสมกับเครื่องยนต์ และ การใช้งานด้วย
และทั้งหมดนี้คือเทคนิควิธีเบื้องต้นที่จะช่วยรักษาสภาพ และ ยิดอายุการใช้งานของรถบรรทุกให้มีคุณภาพดี สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านด้วย
ขอขอบคุณอย่างสูง P.I.E. Premium Modern Truck
ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck