ควันดำ ต้องรีบแก้ก่อนจะสาย จะได้ไม่เสี่ยงโดนปรับ !

ควันดำ

ควันดำ เป็นสัญญาณอันตรายของรถพัง รีบแก้ไขก่อนที่จะสาย จะไม่เสี่ยงโดนขนส่งปรับ ตรวจสอบควันดำมีค่าเกินมาตรฐานเจอปรับ 5,000 บาทและพ่น 'ห้ามใช้'

       หลายคนคงจะต้องเคยพบเจอกับรถที่มีการปล่อย “ควันดำ” พวยพุ่งออกมาจากท่อไอเสียฟุ้งกระจายไปทั่วบนท้องถนนในระหว่างการเดินทาง ทั้งรถมอไซต์คันเล็ก ทั้งรถยนต์ รถกระบะคันใหญ่ และโดยเฉพาะกับรถที่มีขนาดใหญ่ อย่าง รถบรรทุกเอย รถประจำทางเอย รถบัสเอย หรือรถโดยสารประเภทต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของการทำงานของเครื่องยนต์เหล่านั้น ไม่เพียงสร้างความน่ารำคาญใจ แต่บางทีควันดำนี้ยังลอยมาบดบังทัศวิสัยทำให้เป็นอันตรายในการขับขี่ของเพื่อนร่วมทางอีกต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่เป็นต้นตอปัญหาปัญหา PM 2.5 ที่ส่งผลเสียโดยตรงกับสุขภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการแสบจมูก แสบตา และยังสะสมเข้าสู่ร่างกายได้ และที่สำคัญยังเสี่ยงต่อการโดนปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ ห้ามใช้” ถ้าหากมีค่าควันดำเกินกำหนดอีกด้วย

       ซึ่งควันดำนี้ มีสาเหตุเกิดขึ้นมาจากปัจจัยใดบ้าง แล้วจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร เรามาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อป้องกันจะไม่ให้รถยนต์หรือรถบรรทุกคู่ใจของตนเองเกิดมีควันดำขึ้นมา หรือถ้าหากเกิดมีขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไรได้บ้าง ทาง P.I.E Premium Modern Truck ได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ที่นี่แล้ว เราดูไปพร้อมกันเลย

สาเหตุของควันดำ

       สาเหตุที่ทำให้รถควันดำนั้น เกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่

  • การมีเขม่าตกค้างอยู่ในท่อไอเสีย เมื่อมีการสตาร์ทรถใหม่ ๆ ก็อาจจะมีควันดำออกมาจากท่อไอเสียได้เช่นกัน เป็นควันที่เกิดขึ้นจากการมีเขม่าที่ตกค้างอยู่ในท่อไอเสียนั่นเอง
  • การใช้น้ำมันเครื่องเก่าหรือใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำ ถ้าหากไม่มีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด ก็ทำให้น้ำมันเครื่องหมลดอายุการใช้งาน นอกจากนี้การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำก็เป็นอีกสาเหตุได้เช่นเดียวกัน

  • การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องมาจากว่าน้ำมันดีเซลต้องใช้ความร้อนและแรงดันในการจุดระเบิดสูงมาก การใช้เวลาในการเผาไหม้ในห้องเครื่องนานและไม่สมบูรณ์ก็ทำให้เกิดเขม่าสูงได้ ซึ่งการเผาที่ไม่สมบูรณ์ก็มาจากการที่ระบบการจ่ายน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็น หัวฉีด ปั๊มติ๊ก มีปัญหาจนมีการสั่งจ่ายน้ำมันเกินมาตรฐานและไม่เป็นฝอย และอากาศแปรปรวนเนื่องจากไส้กรองที่มีหน้าที่ในการดักฝุ่นละอองต่าง ๆ เริ่มเสื่อมสภาพก็จะเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและอุดตัน จนการเผาไหม้ที่ห้องเครื่องเป็นไปด้วยความยากลำบากและไม่สมบูรณ์นั่นเอง

  • เครื่องยนต์ที่มีการชำรุด เสื่อมสภาพ หรือสึกหรอ จะส่งผลให้ลูกสูบ กระบอกลูกสูบ และแหวนลูกสูบหลวม ทำให้การอัดจุดระเบิดได้ไม่ดีพอจนทำให้ควันที่ออกมาจากท่อรถเป็นสีดำได้

  • การปรับแต่งเครื่องยนต์ไม่เหมาะสม โดยการปรับแต่งสมรรถนะต่าง ๆ ให้เพิ่มขึ้นจะอาศัยหลักของการจ่ายน้ำมันและอากาศเพิ่ม เพื่อให้ได้การเผาไหม้ในปริมาณที่เยอะที่สุด ส่งผลให้การเผาไหม้ไม่ทั่วถึง น้ำมันที่เหลือจึงถูกเผาไหม้ออกมาไม่สมบูรณ์จนเกิดเป็นควันสีดำออกมามากกว่าปกติ

  • การบรรทุกของด้วยน้ำหนักที่มากเกินไปจนเกินจะรับไหว จะส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเกินจำเป็น และจำเป็นจะต้องเร่งเครื่องแรง ๆ และมีการกดคันเร่งหนักเกินไป หรือออกตัวแบบกระชาก จะทำให้ระบบ EGR ดูดไอเสียวนกลับมาใช้ใหม่ได้ไม่หมด จนมีเขม่าควันดำได้

การแก้ปัญหาของควันดำ

       เมื่อเรารู้ถึงสาเหตุของการทำให้เกิดควันดำแล้วก็จะสามารถแก้ปัญหาด้วยการดูแลในแต่ละจุดได้เช่นกัน ได้แก่

  • ไม่ลืมที่จะฉีดน้ำชำระล้างสิ่งสกปรกในท่อไอเสีย เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ภายในท่อไอเสีย รวมไปถึงเขม่าควันด้วย
  • หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนดเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาของควันดำได้แล้ว ยังช่วยให้ใช้งานรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
  • ตรวจเช็คระบบจ่ายน้ำมัน ทั้งหัวฉีดและปั๊มฉีดน้ำมันให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
  • ตรวจดูไส้กรองอากาศ และหมั่นเปลี่ยนให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้อากาศมีการถ่ายเทที่ดีขึ้น
  • ซ่อมแซมรถยนต์ในส่วนที่มีการชำรุด เสื่อมสภาพหรือสึกหรอ 
  • หลีกเลี่ยงการบรรทุกของหนัก และควรขับรถด้วยความนิ่มนวล ไม่ออกตัวกระชาก

       เมื่อรู้ถึงทั้งสาเหตุและการแก้ปัญหาที่ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ก็จะทำให้จะไม่ให้รถยนต์หรือรถบรรทุกคู่ใจของตนเองเกิดมีควันดำขึ้นมาได้แถมถ้าหากเกิดปัญหาก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด และนอกจากนี้ยังทำให้ไม่เสี่ยงถูกปรับจากการที่ค่าควันดำเกินมาตรฐานไปอีกด้วย

       ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศปรับปรุงการกำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถมีที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัดให้มีความเข้มงวดมากขึ้น และเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติงานออกตรวจวัดควันดำทั่วประเทศ โดยถ้าหากมีค่าควันดำเกินร้อยละ 30 หรือตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรอง แล้วมีค่าควันดำเกินร้อยละ 40 จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จนกว่าจะมีการนำรถไปแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด และเมื่อนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่าน        

       ทั้งนี้ก็เพื่อลดการปล่อยควันดำให้น้อยลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมมลพิษ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล มีผลบังคับใช้วันที่ 13 เมษายน 2565 เป็นต้นมา

ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck

P.I.E. Premium Modern Truck :: ขายรถบรรทุก

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง