ทางกรมขนส่งทางบกย้ำกับผู้ประกอบการขนส่งจะต้อง ตรวจสภาพรถโดยสารและรถบรรทุก อย่างน้อยทุก 6 เดือน หรือชำระภาษีประจำปีทุกครั้ง
ทางของกรมการขนส่งทางบกได้มีการย้ำกับผู้ประกอบการขนส่งจะต้องทำการบำรุงรักษารถ พร้อมกับ ตรวจสภาพรถโดยสารและรถบรรทุก ตามระยะเวลาอย่างน้อยทุก 6 เดือน หรือระยะทางไม่เกิน 40,000 กิโลเมตร และจะต้องนำแบบบันทึกผลการบำรุงรักษารถ (Logbook) มาแสดงประกอบการตรวจสภาพรถหรือชำระภาษีประจำปีทุกครั้ง
ทางด้าน นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก ได้กล่าวว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้มีการประกาศในเรื่องของข้อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการบำรุงรักษารถ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2565 ไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ซึ่งจะมีผลให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกและรถโดยสาร ประเภทการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง การขนส่งโดยรถขนาดเล็ก และรวมไปถึงการขนส่งส่วนบุคคลด้วยจะต้องมีการทำการบำรุงรักษารถพร้อมกับตรวจสภาพรถ ตามระยะเวลาทุก 6 เดือน หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร หรือตามระยะทางหรือระยะเวลาที่น้อยกว่า หรือตามระยะทางหรือระยะเวลาที่ผู้ผลิตรถกำหนดก็ได้ เพื่อเป็นการให้ผู้ประกอบการขนส่งทำการตรวจสอบและบำรุงรักษารถก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน และยังจะสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากการชำรุดบกพร่องของเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถได้อีกด้วย
โดยทางผู้ประกอบการขนส่งที่มีการบำรุงรักษารถอยู่ก่อนแล้ว ก็สามารถที่จะดำเนินการบำรุงรักษารถตามรอบระยะทางหรือระยะเวลาเดิมของรถได้ต่อไป แต่สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการขนส่งที่ยังไม่เคยมีการบำรุงรักษารถมาก่อน ให้ทำการเริ่มดำเนินการบำรุงรักษารถตามรอบระยะเวลา ดังต่อไปนี้
- รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 3 ปี 65 (ก.ค. – ก.ย. 65) จะต้องเริ่มทำการบำรุงรักษารถ และนำแบบบันทึกผล
การบำรุงรักษารถ (Logbook) มาแสดงประกอบการตรวจสภาพรถหรือชำระภาษีประจำปี ตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
- รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 4 ปี 65 (ต.ค. – ธ.ค. 65) จะต้องเริ่มทำการบำรุงรักษารถ และนำแบบบันทึกผล
การบำรุงรักษารถ (Logbook) มาแสดงประกอบการตรวจสภาพรถหรือชำระภาษีประจำปี ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
- รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 1 ปี 65 (ม.ค. – มี.ค. 65) จะต้องเริ่มทำการบำรุงรักษารถ และนำแบบบันทึกผล
การบำรุงรักษารถ (Logbook) มาแสดงประกอบการตรวจสภาพรถหรือชำระภาษีประจำปี ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
- รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 2 ปี 65 (เม.ย. – มิ.ย. 65) จะต้องเริ่มทำการบำรุงรักษารถ และนำแบบบันทึกผล
การบำรุงรักษารถ (Logbook) มาแสดงประกอบการตรวจสภาพรถหรือชำระภาษีประจำปี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ทางผู้ประกอบการขนส่งหรือเจ้าของรถทุกรายก็จะต้องนำแบบบันทึกผลการบำรุงรักษารถมาแสดงประกอบ การตรวจสภาพรถหรือชำระภาษีประจำปีด้วยทุกครั้ง โดยแบบบันทึกผลการบำรุงรักษารถ (Logbook) ที่นำมาแสดงจะประกอบการตรวจสภาพรถจะเป็นกระดาษ หรือ อิเล็กทรอนิกส์ ก็ได้ สำหรับขั้นตอนฝยการบำรุงรักษารถนั้น ผู้ประกอบการขนส่งสามารถนำรถเข้าทำการบำรุงรักษาได้ตามช่องทางต่างๆ ได้แก่ ศูนย์บริการของผู้ผลิตรถ อู่รับซ่อมรถทั่วไป หรือจะศูนย์ซ่อมของผู้ได้รับใบอนุญาตหรือเจ้าของรถก็ได้ ซึ่งรายละเอียดรายการที่ต้องบำรุงรักษารถ มีอยู่ด้วยกันจำนวน 10 รายการ ได้แก่
- ระบบเครื่องยนต์
- ระบบไอเสีย
- ระบบส่งกำลัง
- ระบบบังคับเลี้ยว
- ระบบห้ามล้อ
- ระบบรองรับน้ำหนัก
- ระบบไฟฟ้า ไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณ
- กงล้อและยาง
- ตัวถัง
- ระบบเชื้อเพลิง
กรมการขนส่งทางบก ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งหรือเจ้าของรถให้ทำการบำรุงรักษาตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว และยังกล่าวทิ้งท้ายว่าการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะถือว่าเป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง โดยจะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และอาจส่งผลต่อการพิจารณาการต่อใบอนุญาตประกอบการขนส่งต่อไปอีกด้วย
ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck