ตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ หลังจากที่เริ่มใช้มาตรการตัดแต้มใบขับขี่ ได้ 2 ช่องทางทั้งบนเว็บไซต์และผ่านแอปพลิเคชันบนสมารท์โฟน
ในวันนี้ทาง P.I.E Premium Modern Truck จะมาแนะนำวิธี ตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ ง่าย ๆ ด้วยตัวเองมาฝากผู้อ่านทุกคน หลังจากที่ได้มีการเริ่มใช้มาตรการตัดแต้มใบขับขี่มาตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา สามารถเช็กได้ด้วยตนเองได้ 2 ช่องทางทั้งบนเว็บไซต์และผ่านแอปพลิเคชันบนสมารท์โฟน
โดยหลังจากที่ทางกรมขนส่งทางบก ได้มีการร่วมมือกันกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการปรับเงื่อนไขระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือมีระบบการ ตัดคะแนนใบขับขี่ ซึ่งก็หมายความว่าถ้าหากเมื่อมีกากระทำผิดกฎจราจรแต่ละครั้งจะไม่ได้เพียงถูกปรับอย่างเดียวแล้ว แต่จะมีการถูกตัดคะแนนร่วมด้วย และเงื่อนไขในการตัดแต้มใบขับขี่อยู่ด้วยกัน 20 ข้อหา ซึ่งถ้าถูกตัดคะแนนจนหมดและมีความผิดซ้ำอีกตามเกณฑ์ที่กำหนดทั้งนี้ก็เพื่อให้มีความเป็นไปตามมาตรฐานสากล และเป็นการเพื่อสร้างวินัยจราจรที่ดีเพิ่มเติมจากการออกใบสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ แล้วนอกจากนี้จะยังสามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สร้างวินัยขับขี่ปลอดภัยได้อีกด้วย โดยมีผลบังคับใช้ใสตั้งแต่ในวันที่ 9 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา
สำหรับระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ ผู้มีใบขับขี่ทุกคนจะมีอยู่ด้วยกันที่ 12 คะแนนเต็มและจะมีการตัดแต้มใบขับขี่อยู่ด้วยกัน 20 ข้อหา ซึ่งถ้าถูกตัดคะแนนจนหมดและมีความผิดซ้ำอีกตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ ได้ด้วยกันอยู่สองช่องทาง ได้แก่
แอปพลิเคชัน ขับดี (KHUBDEE)
แอปพลิเคชัน KHUBDEE ประกอบไปด้วย 7 ฟีเจอร์หลัก อย่างเช่น ตรวจสอบสถานะใบขับขี่ ตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ ตรวจสอบใบสั่งย้อนหลัง โต้แย้งข้อกล่าวหา อัปเดตข่าวสารจราจร และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งสมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android
เว็บไซต์ Police Ticket Management e-Ticket
โดยตัวระบบจะแสดงคะแนนในปัจจุบัน ข้อมูลคะแนน การคืนคะแนน สถานะใบขับขี่ ข้อมูลใบสั่ง ข้อหา และรวมไปถึงประวัติการกระทำผิดที่ผ่าน นอกจากนี้แล้ว เว็บไซต์ดังกล่าวก็ยังสามารถตรวจสอบใบสั่งจราจร พร้อมกับระบบโต้แย้งใบสั่ง และสามารถชำระค่าปรับระบบออนไลน์ E-Ticket ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต โมบายแบงก์กิ้ง แอปพลิเคชันเป๋าตัง และจุดชำระที่มีเครื่องหมาย PTM
คะแนนที่ถูกตัดไป สามารถไปอบรมเพื่อขอคืนคะแนนได้ถ้าหากว่ามีคะแนนที่เหลือน้อยกว่า 6 คะแนน การอบรมขอคืนจะสามารถอบรมได้ปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ สามารถจองคิว เลือกวัน เวลา และสถานที่ ได้ผ่านเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/login หรือแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
สำหรับการเข้ารับการอบรม จะมีหลักสูตรการอบรมและค่าใช้จ่าย ดังนี้
อบรมครั้งที่ 1
หลักสูตรคืนไม่เกิน 12 คะแนน ใช้เวลาอบรม 4 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300 บาท
หลักสูตรคืนไม่เกิน 9 คะแนน ใช้เวลาอบรม 3 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 250 บาท
หลักสูตรคืนไม่เกิน 6 คะแนน ใช้เวลาอบรม 2 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 200 บาท
อบรมครั้งที่ 2
หลักสูตรคืนกลับมาเป็น 6 คะแนน ใช้เวลาอบรม 3 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 250 บาท
อบรมกรณีถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ เหลือ 0 คะแนน
คืนกลับมาเป็น 12 คะแนน ใช้เวลาอบรม 4 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300 บาท
ในส่วนการเข้ารับการทดสอบ โดยต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 จึงจะถือว่าผ่านการอบรมและทดสอบ
หากทดสอบไม่ผ่าน
– สามารถสอบเป็นครั้งที่ 2 ได้ ในวันเดียวกัน
– หากยังสอบไม่ผ่านอีก เจ้าหน้าที่จะออกใบนัดให้มาทดสอบ ครั้งที่ 3 ภายใน 7 วัน นับจากวันที่สอบครั้งแรกไม่ผ่าน
และถ้าหากเมื่อผ่านการทดสอบแล้ว ทางกรมการขนส่งทางบกจะมีการแจ้งผลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติคืนคะแนนให้ต่อไป
ที่มา : ขับขี่ปลอดภัย By DLT
ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck