การดูแลรักษารถยนต์ช่วงหน้าร้อน


การดูแลรักษารถยนต์ช่วงหน้าร้อน หน้าร้อนเป็นสภาพอากาศที่เหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ความร้อนจัดอาจส่งผลเสียต่อระบบที่สำคัญที่สุดในรถของคุณ ดังนั้นในช่วงร้อนนี้ คุณต้องการเดินทาง และไปเที่ยว การเตรียมตัวให้พร้อมให้ดีที่สุดในหน้าร้อนนี้ สามารถช่วยปกป้องรถของคุณ ตัวคุณ และครอบครัว และทาง piemoderntruck นี้ ได้นำวิธี และเคล็ดลับการบำรุงรักษารถยนต์ 10 ข้อที่ต้องรู้ในช่วงหน้าร้อน เพื่อให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

การดูแลรักษารถยนต์ช่วงหน้าร้อน และ 10 ข้อที่ต้องรู้

1. ทดสอบเครื่องปรับอากาศ

ความร้อนในช่วงหน้าร้อนนี้อาจทำให้ เครื่องปรับอากาศในรถไม่เย็น เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น คุณจะต้องการระบบ AC ที่ใช้งานได้ในรถของคุณ คุณอาจไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงหน้าหนาวมากนัก ดังนั้นควรทดสอบก่อนหน้าร้อน เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ หากเครื่องปรับอากาศในรถไม่เย็น วิธีแก้ไขสำหรับวิธีการตรวจสอบ ให้ลองสตาร์ทเครื่องแล้วเปิดระบบเครื่องปรับอากาศปุ่ม AC เพื่อให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน จากนั้นส่องดูในช่องตรวจสอบน้ำยาระหว่างแผงระบายความร้อนด้านหน้ารถ หากเห็นฟองอากาศเล็กๆ สีขาว แสดงว่าน้ำยาแอร์กำลังจะหมด ควรหยุดฝืนเปิดแอร์ และรีบไปที่ร้านซ่อมแอร์รถยนต์ที่ใกล้ที่สุด

2. ตรวจสอบแรงดันลมยางของคุณ

ก่อนออกเดินทางในหน้าร้อนนี้ ควรตรวจสอบแรงดันลมยางก่อน เมื่อตรวจสอบแรงดันลมยางของคุณ มีลมยางน้อยหรือมากเกินไป รถยนต์นั่งส่วนบุคคลส่วนใหญ่มีแรงดันลมยางที่แนะนำอยู่ระหว่าง 30 ถึง 35 แรงดันลมยางของคุณควรเป็นเท่าใด แรงดันลมยางที่เหมาะสมสามารถป้องกันยางแบน หรือยางระเบิดได้ การเติมลมยางอย่างเหมาะสมยังช่วยเพิ่มระยะการใช้น้ำมันสูงสุด ในการนั่งรถระยะไกลอีกด้วย ควรตรวจสอบแรงดันยางอะไหล่ด้วย หากไม่ทราบแรงดันลมยางสำหรับรถที่คุณใช้งานอยู่ อันดับแรกสามารถดูแรงดันลมยางที่ถูกต้อง หากมีข้อสงสัย โปรดดูคู่มือสำหรับยางเฉพาะของคุณในคู่มือรถ หรือบนป้ายยางที่ติดอยู่บริเวณขอบประตูรถ

3. เติมน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่อง เป็นหนึ่งในการซ่อมบำรุงรถยนต์ที่บ่อยที่สุด ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดไว้ ปกติจะเปลี่ยน 8,000-10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของรถด้วยการใช้งานรถยนต์นอกจากจะต้องดูแลรักษา และเช็กระยะตามกำหนดแล้ว การเอาใจใส่ในรายละเอียดต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่างเช่นในเรื่องของน้ำมันเครื่อง

เมื่อถึงระยะเปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่องเก่าที่หมดอายุ หรือหมดประสิทธิภาพต้องถูกถ่ายออก เพื่อเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องใหม่ที่มีประสิทธิภาพเต็มร้อย มาใช้งานแทนนั่นเอง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศตามฤดูกาล มักส่งผลให้ของเหลวในเครื่องยนต์ ทั้งน้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ น้ำยาหล่อเย็น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจสอบในช่วงหน้าร้อน เนื่องจากมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป

4. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และไส้กรองเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่ง ในการยืดอายุรถของคุณ น้ำมันหล่อลื่นช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณปลอดภัยจากการสึกหรอ และตัวกรองน้ำมันช่วยขจัดสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำมันเครื่อง เหตุผลที่ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง ทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพราะน้ำมันเครื่องทำงานโดยการไหลเวียนไปเคลือบส่วนต่างๆ รวมถึงรอยต่อของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่ทำจากโลหะ เมื่อโลหะเสียดสีกัน ก็จะเกิดความร้อน และการสึกหรอตามมา การสึกหรอของโลหะขนาดเล็ก เขม่าควัน หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ปะปนมากับน้ำมันหล่อลื่น

ไส้กรองน้ำมันเครื่องมีหน้าที่ดักจับสิ่งไม่พึงประสงค์เหล่านั้น โดยสิ่งสกปรกจะติดอยู่ที่กระดาษกรอง ก่อนจะระบายน้ำมันเครื่องที่สะอาดออกไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นเรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม หลักการทั่วไปที่ดีคือเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 1,0000 กิโลหรือปฏิบัติตามการบำรุงรักษาน้ำมันเครื่อง ของศูนย์บริการรถยนต์

5. ทดสอบเบรกของคุณ

การตรวจสอบประสิทธิภาพเบรกของรถ จึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องพึ่งพาเบรกทุกครั้งที่ขับรถ ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่จะทำการทดสอบเบรกเป็นประจำ ไม่เพียงแต่ในฤดูร้อนเท่านั้น แต่ตลอดทั้งปี ระบบเบรคเป็นอีกส่วนสำคัญในการใช้รถ และคงไม่มีคนไหนที่อยากใช้รถคันที่ ระบบเบรครถยนต์ มีปัญหา ดังนั้นการตรวจเช็ค ระบบเบรครถยนต์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับรถคุณ

อย่าคิดว่ารถจะมีแต่เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบไฟ ส่วนต่างๆ ที่ช่วยให้รถวิ่งได้เท่านั้นที่คุณจะต้องดูแล เมื่อรถผ่านการใช้งานไปตามอายุ ตามเลขไมล์ การดูแลรักษาในส่วนที่ช่วยในเรื่องความปลอดภัยมากที่สุดอย่าง ระบบเบรครถยนต์ ก็มองข้ามไม่ได้และควรเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่งกับรถของคุณเหมือนกัน หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณเบรคที่ไม่ดี ก็ถึงเวลาสำหรับการตรวจสอบ และอาจต้องมีการซ่อมแซม

6. เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน

การรักษาทัศนวิสัยเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่คุณอยู่หลังพวงมาลัย ฝุ่น หรือแม้แต่แสงสะท้อนจากแสงแดด อาจทำให้ความสามารถในการมองเห็นกระจกหน้ารถของคุณลดลงได้อย่างชัดเจน อย่าลืมตรวจสอบประสิทธิภาพของที่ปัดน้ำฝนเพื่อกำจัดสิ่งที่อาจทำให้ทัศนวิสัยลดลง เป็นความคิดที่ดีที่จะตรวจสอบหรือเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนเมื่อสิ้นสุด นอกจากนี้ หากไฟหน้าของคุณดูสลัว ให้เปลี่ยนทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะมองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน ท่ามกลางสายฝน หรือในสภาวะอื่นใด ที่อาจส่งผลต่อการมองเห็น

7. ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ

หน้าที่หลักๆของไส้กรองอากาศ คือ กรองฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ปะปนมากับอากาศไม่ให้ไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ ถ้าไม่มีกรองเพื่อจำกัดสิ่งที่ไม่ดีต่อเครื่องยนต์เราเหล่านี้ จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอและเสียหาย ไส้กรองอากาศยังป้องกันไม่ให้เกิดประกายไฟย้อยกลับ ถ้าไม่ใส่ใส้กรองอากาศ มีโอกาสทำให้เกิดไฟไหม้ในห้องเครื่องยนต์สูงมาก และลดเสียงดังของอากาศที่ถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ ไส้กรองอากาศที่ใช้กับรถยนต์ ในปัจจุบันส่วนมากเป็นแบบกระดาษแห้ง สามารถเป่าทำความสะอาดได้ มีบางชนิดที่เป่าไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนอย่างเดียว

การตรวจไส้กรองอากาศ ต้องมีการตรวจเช็คตามระยะเวลา เพื่อให้มันมีประสิทธิภาพดีที่สุด ไส้กรองอากาศที่อุดตัน หรือมีฝุ่นผงติดอยู่มาก สิ่งเหล่านี้จะไปอุด ปิดกัน ปริมาณอากาศที่ไหลเข้าเครื่องยนต์ อากาศที่เข้าเครื่องยนต์ได้น้อยลง จะทำให้ส่วนผสมหนาเกินไป เร่งเครื่องยนต์ไม่ค่อยขึ้น รอบขึ้นช้า ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้มลพิษของไอเสียเพิ่มขึ้น ไอเสียสีดำ และถ้ามีฝุ่นผงเข้าไปในเครื่องยนต์ จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้ ดังนั้นควรทำความสะอาดไส้กรองอากาศเป็นประจำ

8. ทำความสะอาดรถของคุณ

การรักษาความสะอาดทั้งภายนอก และภายในรถไม่เพียงแต่ทำให้คุณรู้สึกดีเท่านั้น มันสมเหตุสมผลทางการเงินในระยะยาว อุณหภูมิที่ร้อนจัดอาจทำให้พลาสติก อาหาร หรือขยะอื่นๆ ที่หลงเหลืออยู่ภายในรถละลาย และอาจสร้างความเสียหายภายในรถได้ ซึ่งอาจต้องมีการซ่อมที่มีค่าใช้จ่ายสูง นอกจากนี้ การดูแลภายนอกให้สะอาด สามารถปกป้องสีจากแสงแดดได้ ล้างรถเป็นหนึ่งในการดูแลรถที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะเป็นการเอาคราบฝุ่น คราบน้ำ คราบสกปรกต่าง ๆ ออกจากตัวรถ ยังเป็นโอกาสที่คุณจะเช็กสภาพรถไปในตัวด้วยนั่นเอง

9. จอดรถไว้ในที่ร่ม

อากาศร้อนพยายามจอดรถไว้ในร่มทุกครั้งที่เป็นไปได้ การจอดรถในที่ร่มไม่เพียงช่วยให้คุณรู้สึกเย็น แต่ยังช่วยให้รถของคุณเย็น และยืดอายุการใช้งานอีกด้วย แสงแดดอาจสร้างความเสียหายให้กับภายนอก และสีรถของคุณซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในการซ่อมแซม ความร้อนจัดอาจทำให้ภายในรถร้อนขึ้น เช่น พวงมาลัยและเบาะหนัง ทำให้ขับได้ยาก การมีม่านบังหน้าต่างในรถเป็นสิ่งที่ดีในกรณีที่คุณไม่สามารถจอดรถในที่ร่มได้

10. รักษาเครื่องยนต์ให้เย็นอยู่เสมอ

เครื่องยนต์ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับรถยนต์ ถ้าหากปล่อยไว้ไม่ดูแลก็อาจทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้ง่าย และเครื่องยนต์ยังเป็นชิ้นส่วนที่มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ที่สูงกว่าชิ้นส่วนอื่นๆ เราจึงนำเคล็ดลับการดูแลเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น รถยนต์ทุกคันมีระบบระบายความร้อน โดยทำหน้าที่ระบายความร้อนออกจากเครื่องยนต์ เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม

ระบบทำความเย็นประกอบด้วยสารหล่อเย็น ท่อ หม้อน้ำ และปั๊มน้ำ มาตรวัดอุณหภูมิที่ออกแบบมาเพื่อวัดระดับน้ำหล่อเย็นในรถของคุณ จะระบุว่าน้ำหล่อเย็นของเครื่องยนต์เย็นเป็นปกติ หรือร้อนเกินไป หากเกจวัดอุณหภูมิแสดงระดับสูง อาจหมายความว่า รถของคุณมีความร้อนสูงเกินไป หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นลง ถ้าเกิดเป็นปัญหาร้ายแรง วิธีที่ดีที่สุดคือติดต่อช่างในพื้นที่ของคุณทันทีเพื่อแก้ไขปัญหา

นี้คือเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ และข้อมูลที่มีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ของทาง piemoderntruck นำมาฝาก ให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน ติดตามอ่านข้อมูลข่าวสาร เรื่องรถบรรทุกแบบอื่นๆได้ที่ คลิกลิ้งด้านล่าง ได้เลยครับ


ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุก ได้ที่เว็บไซต์ : https://piemoderntruck.com/

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ผ่านไลน์แอด : ติดต่อเราคลิก หรือ @pie333

Page Face Book : P.I.E. Premium Modern Truck

TikTok : @piepurchesing

P.I.E. Premium Modern Truck :: ขายรถบรรทุก

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง