ขับรถชนของหลวง ! จะต้องชดใช้ค่าปรับเท่าไหร่กันนะ ?

ขับรถชนของหลวง

การเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครตั้งใจ แต่ก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินสาธารณะหรือ ขับรถชนของหลวง ได้อีกด้วย

        การเกิดอุบัติเหตุนั้นไม่ว่าจะทางรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ก็ตามแน่นอนว่าก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครตั้งใจและอยากให้เกิดขึ้น และอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อถ้าหากเรามีความประมาท หรือพลาดพลั้ง ในทุก ๆ ครั้งที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นก็จะนำมาซึ่งความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นของส่วนตัวของตนเองหรือของผู้อื่นที่อยู่บนท้องถนน รวมไปถึงทรัพย์สินสาธารณะหรือที่เรียกว่า “ของหลวง” อย่างเช่น เสาไฟฟ้า ต้นไม้ข้างทาง ป้ายจราจร ราวสะพาน และเสาสัญญาณไฟ เป็นต้น ซึ่งการ ขับรถชนของหลวง เหล่านี้เองก็จะมีความผิดและจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย  

       ในวันนี้ทาง P.I.E Premium Modern Truck จะมาไขข้อสงสัยของหลาย ๆ ท่านที่อาจจะสงสัยว่า การขับรถชนของหลวงนั้นจะมีความผิดหรือไม่ และจะต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่าไหร่ ชดใช้ให้แก่ใคร มาดูคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย

ขับรถชนของหลวง จะมีความผิดหรือไม่ ❓

        เมื่อผู้ขับขี่รถไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ทั่วไป รถยนต์ หรือรถบรรทุกก็ตามเกิดประสบอุบัติเหตุ และไปชนกับของหลวงจำทำให้เกิดความเสียหายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เสาไฟฟ้า หรือป้ายจราจร จะมีหน่วยงานจากภาครัฐที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลของหลวงในส่วนนั้น อาทิเช่น เสาไฟฟ้า อยู่ในความดูแลของหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรการไฟฟ้า หรือป้ายจราจร จะอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง ซึ่งผู้ใช้รถจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่หน่วยงานนั้น ๆ  นั่นเอง โดยเมื่อหน่วยงานได้รับเรื่องแล้ว ก็จะมีการส่งทีมงานเข้าไปตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยรอบ พร้อมคำนวณค่าเสียหาย และค่าแรงสำหรับการซ่อมแซมหรือรื้อถอน หลังจากนั้นจึงส่งเป็นใบแจ้งหนี้ที่ได้คำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นตามมา

       อีกทั้งยังมีจะความผิดจากการสร้างความเสียหายสาธารณสมบัติ โดยจะอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา หมวด 7 ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ในมาตรา 360  “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ขับรถชนของหลวง จะต้องเสียค่าปรับเพื่อชดใช้เท่าไหร่ ❓

       สำหรับอุปกรณ์แต่ละชิ้นที่มีอยู่บริเวณท้องถนนนั้น แน่นอนว่าก็จะมีราคาไม่เท่ากัน ซึ่งหากผู้ที่ใช้รถขับรถชนก็จำเป็นจะต้องมีการจ่ายค่าเสียหายควบคู่ไปกับค่าปรับอื่น ๆ ด้วย โดยชดใช้ในราคาที่แตกต่างกันไปตามสภาพความเสียหาย โดยจะขึ้นอยู่กับหน่วยงานผู้รับผิดชอบแต่ละหน่วยจะเป็นผู้ชี้แจง ว่าของแต่ละชนิดมีค่าเสียหายที่ต้องจ่ายอยู่ที่เท่าไหร่

  • เสาไฟฟ้า ถือเป็นทรัพย์สินของหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรการไฟฟ้า ซึ่งจะขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่โดยจะมีทั้งการไฟฟ้านครหลวงหรือส่วนภูมิภาค ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะอิงจากความสูงของเสา และประเภทกำลังไฟ รวมถึงค่าแรงที่จะต้องรื้อถอน และติดตั้งใหม่ จะมีราคาประมาณต้นละประมาณ 50,000 – 150,000 บาท หรือถ้าเป็นเสาไฟไฮแมส หรือ เสาสูง (HIGH MAST POLE) ที่มีขนาดสูงตั้งแต่ 15-30 เมตร จะมีราคาสูงถึง 10,000- 300,000 บาท ทั้งนี้ถ้าหากเป็นเสาไฟฟ้าที่มีการพ่วงสายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตจากเอกชนด้วย ก็จะมีการเพิ่มค่าเสียหายร่วมด้วย
  • เสาไฟจราจร มีค่าเสียหายอยู่ที่ราว ๆ 8,000-15,000 บาท ต่อต้น โดยจะประเมินตามสภาพความเสียหายและขนาดของเสา
  • ป้ายจราจร ถือเป็นทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมทางหลวง มีค่าเสียหายอยู่ที่ประมาณ 1,000-3,000 บาท ต่อต้น โดยจะประเมินตามสภาพความเสียหายและขนาดป้าย
  • แบริเออร์ มีค่าเสียหายอยู่ที่ราว ๆ 800-1,500 บาท ต่อชิ้น โดยจะประเมินขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ และจำนวนที่เสียหาย
  • แผงกั้นจราจรแบบเหล็ก หากได้รับความเสียหาย จะมีราคาราว ๆ 1,000-5,000 บาท ต่อแผง ขึ้นอยู่กับขนาด หรือวัสดุ
  • กรวยจราจร จะมีราคาอยู่ที่ 200-800 บาท ต่อชิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของกรวย และจำนวนที่เสียหายทั้งหมด
  • เสาสีส้มล้มลุก มีค่าเสียหายอยู่ที่ราว ๆ 500 บาท ต่อต้น
  • ต้นไม้ หรือพุ่มไม้ จะมีสำนักงานเขตแต่ละเขตและมีเทศบาลท้องถิ่นนั้น ๆ ที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยค่าเสียหายจะขึ้นอยู่กับเขตและเทศบาลเป็นผู้ประเมินราคา

 

*ราคาทั้งหมดนี้เป็นเพียงการประเมินในเบื้องต้นเท่านั้น*

ที่มา : car.kapook.com

ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck

P.I.E. Premium Modern Truck :: ขายรถบรรทุก

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง