รถโดยสาร-รถบรรทุก ต้องบำรุงรักษารถทุก 6 เดือน ดีเดย์เริ่ม 1 ต.ค. 65

รถโดยสาร-รถบรรทุก

รถโดยสาร-รถบรรทุก ตามที่กรมขนส่งทางบกได้กำหนด ต้องบำรุงรักษาและเก็บประวัติรักษารถทุก 6 เดือนหรือหรือเมื่อระยะทาง 40,000 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต 1 ตุลาคม 65 เป็นต้นไป

       สำหรับในวันนี้ทาง P.I.E Premium Modern Truck จะมาแจ้งข่าวสารที่ควรรู้แก่ผู้อ่านทุกท่าน เกี่ยวกับข้อกำหนดจากทางขนส่งทางบกเกี่ยวกับการให้ผู้ประกอบการขนส่ง รถโดยสาร-รถบรรทุก ให้ทำการตรวจสอบและบำรุงรักษารถเมื่อครบตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด โดยเริ่มทำการบำรุงรักษาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป โดย นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก ได้เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้มีกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไขการบำรุงรักษารถไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง พ.ศ. 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งได้ทำการตรวจสอบและบำรุงรักษารถเมื่อครบตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานรถและลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุอันมีสาเหตุมาจากสภาพเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถขาดความสมบูรณ์

       ซึ่งกรมการขนส่งทางบกโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีประกาศ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการบำรุงรักษารถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2565 ไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 โดยมีเนื้อหากำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประเภทการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง การขนส่งโดยรถขนาดเล็ก และการขนส่งส่วนบุคคล ให้มีการบำรุงรักษารถตามระยะเวลาทุก 6 เดือน  หรือเมื่อมีระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ทั้งนี้จะทำการบำรุงรักษาตามระยะทางหรือระยะเวลาที่น้อยกว่า หรือจะบำรุงรักษารถตามระยะทางหรือระยะเวลาที่ผู้ผลิตรถกำหนดก็ได้ประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 21 ก.ย. 2565 โดยรถกลุ่มแรกต้องเริ่มทำการบำรุงรักษาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป 

        สำหรับขั้นตอนการบำรุงรักษารถนั้น ผู้ประกอบการขนส่งสามารถนำรถเข้าทำการบำรุงรักษาได้ตามช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์บริการของผู้ผลิตรถ อู่รับซ่อมรถทั่วไป หรือจะเป็นศูนย์ซ่อมของผู้ได้รับใบอนุญาตหรือเจ้าของรถ ทั้งนี้รายละเอียดรายการที่ต้องบำรุงรักษารถมีจำนวน 10 รายการ ได้แก่

  1. ระบบเครื่องยนต์
  2. ระบบไอเสีย
  3. ระบบส่งกำลัง
  4. ระบบบังคับเลี้ยว
  5. ระบบห้ามล้อ
  6. ระบบรองรับน้ำหนัก
  7. ระบบไฟฟ้า ไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณ
  8. กงล้อและยาง
  9. ตัวถัง
  10. ระบบเชื้อเพลิง

     และให้มีการบันทึกประวัติการบำรุงรักษารถลงในใบแบบบันทึกการบำรุงรักษารถ หรือ Log Book และจะต้องนำมาแสดงเมื่อนำรถเข้ามาตรวจสภาพรถที่สำนักงานขนส่ง โดยนายช่างตรวจสภาพรถจะทำการตรวจสอบสภาพรถเปรียบเทียบกับแบบบันทึกการบำรุงรักษารถว่ามีการบำรุงรักษาสอดคล้องตามที่ได้บันทึกไว้หรือไม่ และบันทึกข้อมูลการบำรุงรักษารถลงในระบบบันทึกข้อมูลการตรวจสภาพรถของกรมการขนส่งทางบก โดยในการเริ่มต้นบำรุงรักษารถ กำหนดระยะเวลาการนำรถเข้าบำรุงรักษาตามรอบสิ้นงวดภาษี ดังนี้

  • รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 1 ของปี 2565 เริ่มบำรุงรักษา 1 เม.ย. 2566
  • รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 2 ของปี 2565 เริ่มบำรุงรักษา 1 ก.ค. 2566
  • รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 3 ของปี 2565 เริ่มบำรุงรักษา 1 ต.ค. 2565
  • รถที่มีอายุภาษีสิ้นงวดที่ 4 ของปี 2565 เริ่มบำรุงรักษา 1 ม.ค. 2566

 

       และทางกรมการขนส่งทางบกยังได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการขนส่งให้นำรถมาบำรุงรักษาตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเพื่อความพร้อมของรถ และความปลอดภัยในการให้บริการประชาชน ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเนื่องจากอุบัติเหตุ และเนื่องจากการบำรุงรักษารถได้ถูกกำหนดเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่งตามมติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ดังนั้น การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะถือว่าเป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และอาจส่งผลต่อการพิจารณาการต่อใบอนุญาตประกอบการขนส่งต่อไปด้วย

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

ที่มา : กรมการขนส่งทางบก

ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุกได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck

P.I.E. Premium Modern Truck :: ขายรถบรรทุก

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง